Mai Child of Ages คือเกมแอคชั่นผจญภัยที่ผสมผสานการต่อสู้ที่รวดเร็วและการเล่นแพลตฟอร์มอันพิถีพิถันเข้ากับโลกที่เต็มไปด้วยปริศนา แท้จริงแล้ว เรียบง่ายและหนักแน่นคือคำอธิบายที่ดีที่สุด ไม่มีอะไรซับซ้อนหรือแปลกประหลาดเกินไป แต่การได้ลองผสมผสานเครื่องมือพื้นฐานต่างๆ เข้าด้วยกันเพื่อพัฒนาเกมก็สนุกดี ต้องยอมรับว่าฉันเริ่มเล่นเกมนี้โดยไม่ได้คาดหวังอะไรมากนัก คิดว่ามันคงจะสั้นและเล่นจบภายในไม่กี่ชั่วโมง… แต่ฉันก็รู้สึกประหลาดใจและเล่นต่อไปเรื่อยๆ ตั้งแต่ต้นจนจบ
เรื่องราวของเกมแนะนำให้เรารู้จักตัวละครตั้งแต่ต้นจนจบ นั่นคือ เด็กหญิงชื่อไมและคุณปู่ของเธอ พวกเขาอาศัยอยู่กับแพะบนเกาะอันห่างไกลที่ล้อมรอบไปด้วยป่าโบราณและมหาสมุทร แต่ทุกอย่างไม่ได้เรียบง่ายอย่างที่คิด ไมไม่ใช่เด็กธรรมดา เธอถูกพบในดอกไม้ตั้งแต่ยังเป็นทารก และได้รู้ความจริงเกี่ยวกับตัวเองจากคุณปู่ซึ่งตอนนี้ต้องการยารักษาโรค เธอจึงออกเดินทางเพื่อค้นหาวิธีรักษาและคำตอบสำหรับรากเหง้าของเธอ
Mai: Child of Ages ผสมผสานรูปแบบการเล่นจากเกมแพลตฟอร์มมากมาย เช่น “Super Mario 64”, “A Hat in Time” และซีรีส์ “Zelda” เข้าด้วยกัน สร้างสรรค์เป็นเกมที่สมบูรณ์แบบ เกมเริ่มต้นอย่างเชื่องช้า บังคับให้คุณทำภารกิจง่ายๆ เช่น รวบรวมไอเทมบางอย่างรอบแผนที่ ซึ่งท้ายที่สุดแล้วทำให้หลายคนยอมแพ้ แต่ถ้าคุณเล่นต่อไป คุณจะพบว่านอกจากความลับอันยิ่งใหญ่ในเนื้อเรื่องแล้ว รูปแบบการเล่นยังยอดเยี่ยม เต็มไปด้วยของสะสม อัปเกรด ปริศนา ดันเจี้ยน และความท้าทายต่างๆ
รูปแบบการเล่นของเกมนั้นยอดเยี่ยมและสนุกมาก ในระหว่างการผจญภัย คุณจะควบคุม Mai ผู้ซึ่งเดินทางผ่านพืชลึกลับในสองสถานที่ในช่วงเวลาต่างๆ ของเกม ตัวละครนี้มีสองเวอร์ชันในสองช่วงอายุที่แตกต่างกัน: Mai ตัวน้อย ซึ่งเกิดขึ้นในปัจจุบัน และ Mai วัยรุ่นที่ถูกส่งตัวไปยังอนาคตและพบว่าตัวเองอยู่ในโลกที่วุ่นวาย
เธอมีร่างกายที่เบาและสามารถแสดงกายกรรมได้หลากหลายรูปแบบ รวมถึงการกระโดดอันน่าทึ่งและการปีนป่ายสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่เพื่อรับรางวัลและไอเทมต่างๆ เพื่อเพิ่มความสามารถและการเคลื่อนไหวของเธอ ในกรณีของไมวัยรุ่น ตัวละครของเรามีความหนักแน่นและสมจริงมากกว่า เธอไม่สามารถแสดงกายกรรมได้ แต่เธอมีอาวุธทั้งระยะใกล้และไกล เธอค่อนข้างดุดันและคล่องแคล่วในการต่อสู้ และสามารถป้องกันตัวเองและหลบหลีกได้อย่างง่ายดาย โดยรวมแล้ว การต่อสู้มีความคล้ายคลึงกับ “Zelda: Ocarina of Time” มาก
ตลอดทั้งเกม เราต้องรวบรวมทรัพยากรต่างๆ เช่น หิน พืช และผีเสื้อ ไขปริศนา และต่อสู้กับมอนสเตอร์ ของสะสมเหล่านี้ทำหน้าที่เป็นแผนผังทักษะ ยิ่งคุณสะสมมากเท่าไหร่ ทักษะของคุณก็จะยิ่งก้าวหน้ามากขึ้นเท่านั้น เช่น “กระโดดสูงที่สุด” “อยู่ใต้น้ำได้นานที่สุด” “วิ่งและว่ายน้ำเร็วที่สุด” เป็นต้น กลไกการต่อสู้ของเกมก็ไม่เลวเลย เรายิงปืนจากอาวุธที่เหมือนดอกไม้ ต่อสู้ด้วยดาบและโล่ และแม้แต่ระเบิดบอสด้วยสตรอว์เบอร์รี
แม้แต่การเคลื่อนที่ไปตามสถานที่ต่างๆ ก็สนุกสุดๆ มีดอกไม้เพิ่มความเร็วอยู่ทั่วทุกหนแห่ง ช่วยให้คุณผ่านระยะทางไกลได้อย่างรวดเร็ว กลไกการเดินทางข้ามเวลาก็ออกแบบมาได้อย่างยอดเยี่ยม ชวนให้นึกถึงเกม “The Silent Age” อีกอย่าง ตัวละครหลักของเกมมีช่องเก็บของ แผนที่ และผังทักษะ ซึ่งจะเปิดขึ้นเมื่อเล่นไปเรื่อยๆ ทักษะใหม่ๆ จะเปิดพื้นที่ที่ก่อนหน้านี้เข้าถึงไม่ได้ นอกจากทักษะแล้ว ไมยังสามารถใช้อาวุธและไอเทมต่างๆ ได้อีกด้วย
สุดท้ายนี้ Mai: Child of Ages ยังมีโหมด Co-op ที่ผู้เล่นคนแรกจะควบคุมไม และผู้เล่นคนที่สองจะควบคุมวิญญาณธรรมชาติที่วนเวียนอยู่รอบตัวตัวละครและช่วยในการต่อสู้โดยการควบคุมศัตรูที่เลือก ซึ่งเข้ากันได้ดีกับทั้งสองสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นในอดีตที่มีไมตัวน้อย หรือในอนาคตที่มีไมวัยรุ่น
ในด้านกราฟิก การออกแบบภาพของเกมนี้สมควรได้รับคำชมเป็นพิเศษ ทุกอย่างในสภาพแวดล้อมสวยงามและสดใส แม้แต่องค์ประกอบเล็กๆ น้อยๆ ก็ได้รับการใส่ใจ แม้ว่าเกมจะไม่ได้อืดอาดเลย แต่การปรับแต่งบน Nintendo Switch นั้นยอดเยี่ยมมาก งานกล้องก็โดดเด่นไม่แพ้กัน จับภาพฉากและบางฉากได้อย่างแม่นยำ ให้ความรู้สึกราวกับอยู่ในภาพยนตร์ เพลงประกอบเปลี่ยนจากท่วงทำนองที่ผ่อนคลายไปสู่ธีมการต่อสู้ที่เข้มข้นได้อย่างแนบเนียน เข้ากับบรรยากาศได้อย่างลงตัว
โดยรวมแล้ว Mai: Child of Ages เป็นเกมอินดี้สุดอลังการที่ทำให้ฉันหลงใหลตั้งแต่แรกเห็น การเล่นเป็น Mai ออกเดินทางในโลกที่แตกแยกและสร้างขึ้นด้วยมือ ให้ความรู้สึกอบอุ่นราวกับโอบกอดแบบ Metroidvania ปริศนาที่ท้าทายสมอง ความลับที่ซ่อนอยู่ในซากปรักหักพัง และเพลงประกอบสุดวิเศษที่ยังคงติดตรึงราวกับความฝัน พลังเพิ่มที่เปลี่ยนอายุได้นั้นมีชีวิตชีวา ช่วยให้การต่อสู้ยังคงสดใหม่โดยไม่บดบังการสำรวจ เห็นได้ชัดว่าผู้พัฒนาได้ทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจให้กับเกมนี้ และคุณจะเห็นได้ตลอดทั้งเกม
-
9.5/10
-
8.5/10
-
9/10
-
9/10